สำหรับอาหารผู้ป่วยโรคเบาหวาน ไม่ได้มีความพิเศษแตกต่างไปจากคนทั่วไปแต่อย่างใด คนที่เป็นเบาหวานสามารถที่จะทานอาหารได้ปกติแต่ต้องอยู่ในปริมาณที่พอดี และมีความระมัดระวังในการเลือกชนิดอาหารที่มีคุณภาพที่สูงและต้องการควบคุมปริมาณอาหารให้ดี เมื่อรับประทานเข้าไปต้องมีความเหมาะสมแก่ตัวเอง เพื่อไม่ให้รับน้ำตาลเข้าสู่ร่างกายมากเกินไป
อาหารที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน เป็นอาหารทั่วไปที่ไม่ได้มีความแตกต่างจากคนปกติทั่วไป อาหารในแบบปกติแต่จะต้องมีการคำนวณถึงปริมาณและชนิดของแป้งรวมไปถึงไขมันที่ต้องคิดเป็นสิ่งสำคัญ และยังต้องคอยควบคุมน้ำตาลและไขมันในเลือด และต้องรักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ และในแต่ละมื้ออาหารควรที่จะทานให้อยู่ในปริมาณที่ใกล้เคียงกัน แต่ไม่ต้องถึงขั้นงดอาหารมื้อใดมื้อหนึ่ง แต่ควบคุมให้อยู่ในปริมาณที่พอดีกัน
ถ้าต้องการลดน้ำหนัก สามารถที่จะลดปริมาณอาหารได้ แต่ก็ไม่ควรงดอาหาร เพราะอาจจะทำให้หิวเร็วและทานในมื้อถัดไปในปริมาณที่มากขึ้นกว่าเดิม ส่งผลน้ำตาลในเลือดขึ้นๆ ลงๆ หรือถ้าต้องการที่จะลดน้ำหนัก ให้ปรึกษาแพทย์ที่ดูแลท่าน เพราะอาจจะต้องมีการปรับยาร่วมด้วย
อาหารที่ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรหลีกเลี่ยง
1.น้ำตาลและอาหารหวานมาก
การหลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารหวาน, ขนม, ของหวาน, และเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลมาก เช่น น้ำอัดลมหวาน, น้ำผลไม้หวาน, และเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง อย่างเช่น
-
ชานมไข่มุก
เมื่อพูดถึงชานมไข่มุก เป็นอาหารที่ไม่เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวานอย่างมาก ควรที่จะหลีกเลี่ยง เพราะชานมไข่มุก 1 แก้ว มีน้ำตาลที่สูงมากๆ และไม่มีความจำเป็นต่อผู้ป่วย และจะทำให้มีน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงมากขึ้นอย่างรวดเร็ว ดังนั้นชานมไข่มุกเป็นอีกหนึ่งอาหารที่ไม่มีความจำเป็น เพราะมีผลเสียที่จะตามมาค่อนข้างมากกับผู้ป่วยโรคเบาหวาน
สำหรับชานมไข่มุกมีส่วนผสมของน้ำตาลจำนวนมาก ถ้าผู้ป่วยโรคเบาหวานทานเข้าไปอาจจะทำให้ระดับน้ำตาลอาจเพิ่มสูงขึ้น และทำให้เกิดอันตรายได้ หรืออยากทานควรทานในปริมาณเหมาะสม ไม่ควรทานเยอะจนเกินไป
-
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
เมื่อมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเบาหวาน หรือเป็นผู้ป่วยเบาหวานอยู่แล้ว การดื่มเครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์ควรที่จะหลีกเลี่ยงไปเลยจะเป็นผลดีกว่า เพราะอาจจะมีน้ำตาลอยู่ในส่วนผสมของมิกเซอร์อย่างน้ำอัดลม ที่เมื่อดื่มเข้าไปอาจจะทำให้น้ำตาลในเลือดมีปริมาณที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และสำหรับผู้ป่วยที่งดไม่ได้จริงๆ จึงมีเกณฑ์ในการดื่มที่อยู่ในปริมาณที่จำกัด
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์สามารถทำให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตหรืออาจเกิดโรคแทรกซ้อนได้อีกด้วย มีการแบ่งแนะนำตามเพศ ทางที่ดีสำหรับใครที่สามารถงดเครื่องดื่มประเภทนี้ได้ จะดีต่อสุขภาพมากๆ
-
เครื่องดื่มชูกำลัง
สำหรับเครื่องดื่มชูกำลังที่จะมีส่วนประกอบไปด้วยน้ำตาลและยังมีคาเฟอีน เพื่อเพิ่มความสดชื่นและเป็นคุณสมบัติของเครื่องดื่มประเภทนี้ ที่จะทำให้เรามีกำลังมากยิ่งขึ้น เพิ่มพลังและแรงให้มีเพิ่มมากขึ้น
ทำให้เครื่องดื่มชูกำลังเป็นสิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยงกับผู้ป่วยเบาหวาน หากต้องการความสดชื่นให้หาอาหารประเภทอื่นมาทานแทน เช่น ผลไม้หรือน้ำเปล่าเพื่อเป็นการทดแทน หรือให้มีแรงเพิ่มมากขึ้น เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงและได้เป็นการควบคุมน้ำตาลในเลือดอีกด้วย
2.อาหารที่มีปริมาณไขมันสูง
หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันทรานส์และไขมันอิ่มตัว ซึ่งพบได้ในอาหารที่มีการปรุงแต่งมาก, อาหารที่ทอด, และอาหารที่มีไขมันไม่ดีต่อสุขภาพ อย่างเช่น
-
เฟรนช์ฟรายส์
อีกหนึ่งอาหารที่มีการขัดขาวเป็นอาหารที่ไม่เหมาะกับผู้ป่วยโรคเบาหวานอย่างมาก โดยที่เฟรนช์ฟรายส์ได้มีการแปรรูปผ่านการทำวิธีต่างๆ จนไม่เหลือใยอาหาร อาจจะส่งผลต่ออาหารและอาจทำให้มีโรคแทรกซ้อนได้ ดังนั้นการรับประทานอาหารที่เหมาะสมเป็นส่วนสำคัญที่สุดในการควบคุมโรคเบาหวาน ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลสูง และให้ความสำคัญกับอาหารที่มีใยอาหารมาก เช่น ผักผลไม้ และธัญพืช เพื่อช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
-
น้ำมันปาล์มหรือน้ำมันมะพร้าว
สำหรับน้ำมันประเภทนี้ที่จะเป็นน้ำมันพืชมีไขมันอิ่มตัวหรือไขมันดีมากกว่าน้ำมันจากสัตว์ และสำหรับน้ำมันปาล์ม น้ำมันมะพร้าว ทั้ง 2 ชนิดนี้มีไขมันอิ่มตัวที่สูงมากๆ และมีปริมาณที่ทานได้ให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม และทำให้มีโอกาสที่จะไปอุดตันเส้นเลือดสมองและหัวใจ อาจทำให้เกิดอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้ ทำให้น้ำมันปาล์ม น้ำมันมะพร้าว เป็นอีกหนึ่งประเภทอาหารที่ไม่ควนทานมากจนเกินไป
3.อาหารที่มีปริมาณโซเดียมสูง
ลดการบริโภคอาหารที่มีปริมาณโซเดียมสูง เช่น อาหารหรือเครื่องดื่มที่มีเกลือมาก อาหารหมักดอง เพราะอาหารประเภทนี้มีการใส่น้ำตาลหรือเกลือที่มาเกินไป เมื่อผู้ป่วยโรคเบาหวานทานเข้าไปอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าเดิม และอาจเกิดอันตรายและเพิ่มด้วยโรคอื่นๆ ที่เข้ามาแทรกซ้อน
-
อาหารหมักดอง
สำหรับอาหารประเภทหมัก ดอง เป็นอาหารที่มีส่วนประกอบของน้ำตาลหรือเกลือที่มากเกินกว่าปกติ เพราะต้องมีการถนอมอาหาร จึงไม่เป็นผลดีสำหรับผู้ป่วยเบาหวานอย่างแน่นอน และอาหารประเภทนี้อาจจะมีการใส่วัตถุกันเสียหรือสารในแบบอื่นๆ อีกด้วย ที่จะเป็นการนำไปสู่อาการอื่นๆ หรือโรคอื่นที่จะมาแทรกซ้อนได้ เมื่อทานเข้าไปในปริมาณมากๆ อาจจะทำให้เกิดความอัตราย และนำไปสู่โรคอื่นๆ มาแทรกซ้อนอีกด้วย
4.ข้าว แป้ง
อาหารประเภทแป้งที่มีส่วนผสมของน้ำตาลเป็นหลัก เมื่อทานเข้าไปมากๆ อาจทำให้เกิดระดับน้ำตาลที่สูงขึ้น และอันตรายต่อผู้ป่วยโรคเบาหวานอีกด้วย
-
ข้าวขาว ขนมปัง
เพราะแป้งเหล่านี้ได้มีการป่านขัดสีทำให้สูญเสียใยอาหารและวิตามินที่อยู่บริเวณเปลือก และเมื่อได้มีการผ่านการขัดสีมาแล้วนั้นทำให้ไม่มีตัวชะลอการดูดซึมน้ำตาลเหลืออยู่ ดังนั้นเมื่อได้ทานข้าวขาว หรือแป้งขัดขาวเข้าไปแล้วนั้น จะทำให้น้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้นภายในรวดเร็ว
อาหารประเภทแป้งยังมีทั้งโปรตีน แร่ธาตุ และวิตามิน ที่มีความจำเป็นต่อร่างกาย ทำให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานไม่ควรงดอาหารประเภทนี้หรือมีการควบคุมจนเกินไป เพราะอาจจะทำเกิดผลเสียต่อร่างกาย และอาจทำให้เลือดในน้ำตาลต่ำลง
5.เนื้อสัตว์
มากันที่อาหารประเภทเนื้อสัตว์หรือเนื้อสัตว์แปรรูป ที่เป็นแหล่งรวมโปรตีน แต่การที่ได้นำไปแปรรูปทำให้คุณค่าทางอาหารลดลงแล้ว การนำเนื้อไปแปรรูปอาจมีการเติมสารเคมีเพื่อใช้ในการถนอมอาหาร เมื่อได้มีการทานอาหารประเภทนี้ไปบ่อยๆ อาจจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการก่อให้เกิดโรคต่างๆ
นอกจากเนื้อสัตว์ที่ต้องมีการแบ่งสัดส่วนให้มีความพอดี เหมาะสมกันในแต่ละมื้อการแบ่งสัดส่วนในการทานมีความสำคัญอย่างมาก เพื่อไม่ให้เป็นการงดทานไปเลยให้ร่างกายได้รับโปรตีนแบบพอดี ไม่ควรจะงดอาหารประเภทเนื้อสัตว์ไปเลย แต่ควรมีการแบ่งทานให้มีความเหมาะสม
สำหรับอาหารที่มีกากใยให้เป็นการรับประทานเพิ่มเข้าไป เพื่อที่จะเป็นการเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่ร่างกาย แต่แนะนำว่าต้องทานให้มีความพอดี ตามสัดส่วนและทานให้ครบวิตามิน แร่ธาตุและกากใยอาหาร เป็นส่วนจำเป็นต่อร่างกาย และอาหารในประเภทนี้จะแนะนำ อย่างเช่น
-
ผัก
สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานแนะนำจะเป็นการทานผักสด หรือผักต้ม เพราะมีปริมาณของคาร์โบไฮเดรตในปริมาณน้อยกว่าอาหารประเภทอื่นๆ จัดอยู่ในคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่มีวิตามิน แร่ธาตุ และใยอาหารที่สามารถช่วงชะลอน้ำตาลในเลือดไม่ให้สูงขึ้น ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีมากๆ
สามารถทานควบคู่กับอาหารอื่นๆ กันได้ทุกมื้อ แต่ไม่แนะนำให้ทานในรูปแบบของการปั่น เพราะจะทำให้เป็นการสูญเสียวิตามิน การปั่นจะเป็นการแยกกากใยอาหาร ทำให้ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ไม่ได้รับวิตามินที่เพียงพอต่อร่างกาย
-
ผลไม้สด
เนื่องจากผลไม้ทุกชนิดที่มีส่วนประกอบของคาร์โบไฮเดรต ที่จะส่งผลให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้นทั้งสิ้น แต่ผลไม้มีในส่วนของวิตามิน แร่ธาตุ ใยอาหารที่มีความจำเป็นต่อร่างกาย สำหรับผู้ป่วยเบาหวานไม่จำเป็นจะต้องงดทานผลไม้แต่อย่างใดต่แค่เพียงจำกัดการทานผลไม้ให้มีปริมาณที่พอดี จัดสัดส่วนให้มีความเหมาะสม
เพราะเป็นการควบคุมน้ำหนักและน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ เพื่อไม่ให้เกินอันตรายและควบคุมให้อยู่ความเหมาะสมของผู้ป่วยอีกด้วย แต่เช่นเดียวกันกับผัก ที่ไม่แนะนำเป็นน้ำผลไม้ปั่นหรือน้ำผักปั่น เพราะการปั่นจะเป็นการแยกกากใยออก ทำให้วิตามินที่ได้มาจากผักและผลไม้ลดลง และการทานน้ำปั่นทั้งผลไม้และผักอาจจะมีการเพิ่มน้ำตาลลงไปอีกด้วย ทำให้มีความหวานปริมาณเพิ่มขึ้น และไม่เหมาะกับผู้ป่วยโรคเบาหวาน
เนื่องด้วยในชีวิตประจำวันปกติรับประทานอาหาร ที่มีทั้งแป้ง ข้าว ผลไม้ เนื้อ นม และไข่ ที่มีส่วนประกอบไปด้วยน้ำตาลที่อาจจะทำให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้น แต่จะมากน้อยแตกต่างกันไป และอาหารที่ทำให้น้ำตาลสูงเพิ่มมากขึ้นจะมีส่วนประกอบเป็นคาร์โบไฮเดรตที่ทำให้น้ำตาลเพิ่มสูงมากยิ่งขึ้น
มากกว่าอาหารที่เป็นประเภทโปรตีนหรือไขมัน เมื่อต้องการที่จะควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่เกณฑ์ที่เหมาะสมควรที่จะควบคุมจัดสรรอาหารให้มีปริมาณที่พอดี และสัดส่วนที่พอเหมาะ เพื่อที่จะได้ควบคุมน้ำหนักและไม่ให้น้ำตาลในเลือดขึ้นๆ ลงๆ มากเกินไปอีกด้วย
การตรวจสุขภาพโรคเบาหวาน ?
สุดท้าย การตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอและการทำตามคำแนะนำของทีมแพทย์เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อติดตามและปรับการรักษาให้เหมาะสมตามสภาพและความต้องการของผู้ป่วย เพื่อควบคุมโรคเบาหวานได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด ก่อน และการควรคุมการทานอาหารก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องเริ่มจากตัวเรา เพื่อเป็นการรักษาร่างกายแก่ผู้ป่วยโรคเบาหวานไม่ให้มีระดับน้ำตาลที่มากเกินไป
อีกหนึ่งสิ่งสำคัญอย่างมากไม่ควรที่จะซื้อยามาทานเอง หรือการทานยาสมุนไพรโดยที่ไม่ปรึกษาแพทย์ ควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวของผู้ป่วยเพื่อได้รับคำแนะนำที่เหมาะสม
สำหรับบทความนี้เป็นบทความที่ทุกคนจะได้เข้ามาเรียนรู้หรือเป็นการศึกษาในเรื่องของผู้ป่วยเบาหวาน ว่ามีอาหารประเภทไหนที่ทานได้หรือมีอาหารประเภทไหนที่ควรที่จะหลีกเลี่ยง ไม่ควรทานเลย เพราะอาจจะส่งผลเสียต่อร่างกาย เพื่อที่จะเป็นแนวทางให้บุคคลที่อยากดูแลตัวเอง หรือกำลังรักษาตัวเองได้ดูว่ามีอะไรบ้างที่ควรหลีกเลี่ยง หรือทานได้มากน้อยแค่ไหน
ทางบทความของเราเป็นเพียงแนวทางเพื่อให้ผู้อ่านได้รับประโยชน์ในความรู้เบื่องต้นเท่านั้น สำหรับใครที่อยากศึกษาเพื่อที่จะไปดูแลผู้ป่วยและที่สำคัญคือการได้พบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหรือแพทย์เฉพาะทางเพื่อให้ได้คำปรึกษาที่มีความชัดเจนและได้คำปรึกษาที่มีความเหมาะสมได้ตัวยาเพื่อที่จะรักษากันได้ตามขั้นตอน ดังนั้นบทความนี้หวังว่าจะให้ประโยชน์แก่ผู้อ่านไม่มากก็น้อย